MTC ปิดจ๊อบหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท รองรับแผนขยายพอร์ตสินเชื่อปีละ 25-30% รักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ หนุนรายได้ – กำไร สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า หุ้นกู้ จำนวน 3 รุ่น วงเงิน 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 3 ปี 1 วัน อัตราผลตอบแทน 3.13% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราผลตอบแทน 3.45% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 4 ปี 11 เดือน 30 วัน อัตราผลตอบแทน 3.70% ต่อปี ที่เปิดขายระหว่างวันที่ 18, 21-22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก ขายเกลี้ยงทั้งจำนวน

MTC ขยายพอร์ตสินเชื่อปี 65 แตะแสนล้าน หลังจบขายหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 โดยในครั้งนี้บริษัท จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการ

“หุ้นกู้ของ MTC ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆ มา เนื่องจากธุรกิจของ MTC มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งสะท้อนผ่านอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB+” จาก ทริสเรทติ้ง แสดงให้เห็นถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน และฐานเงินทุนที่แข็งแรงของบริษัท รวมทั้งยังสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดี และคุณภาพสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ตลอดจนแหล่งเงินทุนที่หลากหลายและสถานะสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัท”

ในส่วนของแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าไว้จะขยายพอร์ตสินเชื่อ 25-30% แตะที่ระดับ 100,000 ล้านบาท และมีแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 6,500 สาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่มาใช้บริการมากขึ้น โดยมุ่งเน้นบริการที่เป็นเลิศและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าของบริษัทเพื่อรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ผลักดันรายได้-กำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

ธุรกิจของบริษัทแบ่งเป็น 5 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีโฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน ธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ในปี 2565 บริษัทได้เร่งทำการตลาดเพิ่มอีก 2 ธุรกิจ คือ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด ที่ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามลำดับ

โดยตั้งเป้าว่าในปี 2565 จะมียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 10,000 ล้านบาท และบริษัท เมืองไทย เพย์ เลเทอร์ จำกัด ที่ให้บริการซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง กับกลุ่มลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่มาเพิ่มเติม โดยการเสนอสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ,คอมพิวเตอร์ , เครื่องใช้และของใช้ในบ้าน ตามนโยบาย ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง ซึ่งทั้ง 2 บริษัท ถือหุ้นโดยเมืองไทย แคปปิตอล เกือบ 100%

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business